บทนำ

ขอต้อนรับทุกท่านสู่คลินิกเวชกรรมบางไผ่ ใกล้บ้าน... ใกล้ใจ... ห่วงใยดูแลคุณ สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง
มุ่งมั่นตั้งใจ รับใช้บริการ ให้ทุกสิ่งได้มาตรฐาน บริการประทับใจ
พันธกิจของเรา คือ เป็นส่วนร่วมของชุมชนในการส่งเสริม ป้องกัน รักษาและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมตามมาตรฐานวิชาชีพ

28 มีนาคม 2555

เบาหวานขึ้นตา (Diabetic eye)


 เบาหวานมีผลอย่างไรต่อร่างกาย
         เบาหวานอาจเป็นสาเหตุทำให้ตาบอด  เหน็บชา  ไตวาย  เพิ่มโอกาสของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก
 ความผิดปกติทางตาจากเบาหวาน
         ตาแห้งเนื่องจากน้ำตาน้อยลง  ประสาทสมองเส้นที่ 3,4,6 เป็นอัมพาต  สายตาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากภาวะน้ำตาลสูง 
ผิวกระจกตาถลอกได้ง่าย  มีเส้นเลือดงอกใหม่ที่ม่านตา  ต้อกระจกเกิดเร็วกว่าปกติ  เกิดต้อหินมุมเปิดมากกว่าคนปกติ  เบาหวานเข้าจอประสาทตา  อาจทำให้ตาบอดได้
 เบาหวานเข้าจอประสาทตา พบบ่อยแค่ไหน และเป็นอย่างไร
     ความผิดปกติที่จอประสาทตานี้จะพบได้บ่อยเพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน  พบว่าประมาณ 60% ของผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมากกว่า 15 ปี  จะมีความผิดปกติของเส้นเลือดที่จอประสาทตา  เราสามารถแบ่งง่าย ๆ ได้เป็น 2 ระยะใหญ่ ๆ  คือระยะเริ่มต้นและระยะรุนแรง

ระยะเริ่มต้น

       จะตรวจพบความผิดปกติของจอประสาทตา(The retina)  มีลักษณะเป็นจุดเลือดออกขนาดเล็กและขนาดใหญ่  มีการรั่วซึมและตกตะกอนของสารไลโปโปรตีน  เส้นใยประสาทตาขาดเลือดมาเลี้ยง  อาจพบมีจุดรับภาพบวมน้ำร่วมด้วยได้

ระยะรุนแรง

        ตรวจพบมีเส้นเลือดงอกใหม่  ซึ่งผิดปกติที่จอประสาทตาและขั้วประสาทตา  เส้นเลือดเหล่านี้จะเปราะบาง และแตกง่าย  ทำให้เกิดมีเลือดออกในน้ำวุ้นลูกตา  อาจพบมีแผ่นพังผืดร่วมกับเส้นเลือดที่ผิดปกตินี้  และอาจมีการหดดึงรั้งของพังผืด  ทำให้เกิดการฉีกขาดและลอกตัวของจอประสาทตาตามมาได้  ซึ่งในระยะนี้ผู้ป่วยมักจะมีระดับสายตาลดลงมากอย่างรวดเร็ว
ถ้ามีเส้นเลือดงอกใหม่ที่ม่านตา  จะเกิดการอุดตันทางระบายน้ำของช่องหน้าม่านตา  ทำให้เกิดความดันตาสูงขึ้น  เกิดต้อหินชนิดหลอดเลือดงอกใหม่  ซึ่งรักษาได้ยากและเป็นสาเหตุของตาบอดได้อีกด้วย

 เราจะป้องกันและรักษาอย่างไร (Prevention and treatment.)
1. ป้องกันไม่ให้เป็นเร็วและเป็นมากขึ้นโดยการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
2. การฉายเลเซอร์ที่จอประสาทตาจะทำในกรณีที่มีจุดรับภาพบวมน้ำ และในรายที่มีเบาหวานเข้าจอประสาทตาระยะรุนแรง เพื่อไปทำลายและหยุดการขยายตัวของเส้นเลือดที่งอกใหม่
3. ผู้ป่วยที่มีเลือดออกในน้ำวุ้นลูกตาที่อาการไม่ดีขึ้น หลังจากรอในระยะเวลาหนึ่ง  จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดน้ำวุ้นลูกตา
4. ผู้ป่วยที่มีจอประสาทตาขาดหลุดลอกแล้ว  จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดรักษาจอประสาทตา

 เมื่อไรต้องมารับการตรวจจอประสาทตา
      ในผู้ป่วยที่เริ่มเป็นเบาหวานตั้งแต่อายุน้อยกว่า 30 ปี  ควรมารับการตรวจจอประสาทตาภายใน 5 ปี  หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน    ส่วนในผู้ป่วยที่เริ่มเป็นเบาหวานเมื่ออายุน้อยว่า 30 ปี  ควรมารับการตรวจจอประสาทตาในทันทีที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน

 ควรมารับการตรวจจอประสาทตาบ่อยแค่ไหน
      ในกรณีที่ตรวจครั้งแรกไม่พบมีความผิดปกติของเบาหวานเข้าจอประสาทตา  จักษุแพทย์จะแนะนำให้มาตรวจทุกปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่ถ้าตรวจพบมีเบาหวานเข้าจอประสาทตาแล้ว  การนัดมาตรวจครั้งต่อไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเบาหวานเข้าจอประสาทตา  ซึ่งถ้าเป็นในระยะไม่รุนแรง  อาจนัดมาตรวจซ้ำทุก 4-6 เดือน  แต่ถ้าเป็นในระยะรุนแรง  อาจต้องมาตรวจทุก 1-2 เดือน

 สรุป
     การรักษาเบาหวานเข้าจอประสาทตาจะได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน  ขึ้นอยู่กับการตรวจพบและให้การรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ  ที่สำคัญมาก คือ  การควบคุมอาหารและระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ  เพื่อที่จะลดโอกาสการเกิดเบาหวานเข้าจอประสาทตา  รวมถึงผลแทรกซ้อน ซึ่งอาจนำไปสูภาวะตาบอดได้ในที่สุด


กลับหน้าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย...เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส.... เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย
ใครชอบใครชังช่างเถิด ใครเชิดใครแช่งช่างเขา ใครเบื่อใครบ่นทนเอา ใจเราร่มเย็นเป็นพอ